วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2556

เหยื่อตกปลาช่อน ... ทำเอง

     จากที่ผมได้มีโอกาสศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเหยื่่อตกปลามาหลายปี พบว่าการกระโดดของเหยื่อปลอมมีผลต่อการวาดระแวงของปลาช่อนเป็นอย่างมาก  ดังนั้นเหยื่อที่มีประสิทธิภาพและสามารถตกปลาได้ดีจะต้องเป็นเหยื่อปลอมที่  มีความคล้ายคลึงกับเหยื่อธรรมชาติมากที่สุด



ภาพนี้คือกบปลอม


                   ผมทำกบปลอมด้วยตัวเอง        จากนั้นก็นำไปทดสอบการกระโดดจากบ่อน้ำธรรมชาติ  เมื่อผลการกระโดดเป็นที่น่าพอใจ   ผมจึงจะนำไปตกตามบ่อน้ำธรรมชาติ  ซึ่งแหล่งน้ำที่ผมไปบ่อยที่สุดคือ เขื่อนสิรินธร  จ.อุบลราชธานี  ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านมากนัก



ปล. ถ้ามีเวลาผมจะมาเล่าวิธีการว่าผมทำ  กบปลอมอย่างไร  

วันพฤหัสบดีที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เทคนิคการตกปลาชะโด



เทคนิคการตกปลาชะโด

ศาสตร์แห่งการสังเกตปลาจิบ
ดูให้ทัน ตาให้ไว มันหันหัวไปทางไหน สะบัดหางไปทางไหน มันยังลอยอยู่ หรือมันกำลังจะลง หรือมันพุ่งลงไปเร็ว หรือว่าตบหางบนผิวน้ำดัง ตั๊บบบบบ แรงๆ ดังๆ ........ คนที่ประสบการณ์สูงๆคงรู้ดี

ส่วนใหญ่จะตีผิดตีถูก ด้านข้างหรือผ่ากลางวงน้ำที่บานๆ ไม่ยากเลยครับสำหรับมือใหม่
กรณี ปลาขึ้นมาจิบโผล่มาแต่ปาก แล้วสังเกตได้ยินเสียงสูดอากาศดัง ฝู๊บบๆ ใกล้ๆเรือ ปลาตัวนี้ลงน้ำเร็วแน่นอน ตียาวๆ เกินวงน้ำไปสัก 4-6 เมตรครับ กะเอาน่ะ (กรณีน้ำลึก) กรอให้่เร็ว ถึงเร็วปานกลาง รอกผมเบอร์ 200 ครับ (ไม่ใช่รอกตีปลาขัง เด๋วพัง )
กรณี ปลาจิบแล้ว เห็นครีบหลังทั้งเส้น (มองทันพอดี) ปลาตัวนั้นค่อยๆลงครับ ตีเลยวง 1-2 เมตร ครับ กรอช้า เหยื่ออะไรก็ได้ดำไม่ลึกตัวปานกลาง ดูให้ทันว่าหางไปทางไหนหัวไปไหน
กรณี ปลาขึ้นจิบเป็นตลาดนัด จับเวลา 1 นาที น้ำบานประมาณ 50-80 วง นั่นคือท่านได้เจอฝูงมันแล้วครับ ใจเย็นๆ เงียบๆ ให้มันขึ้นให้มันส์ปากไปเลย เมื่อปล่อยให้มันจิบเป็นฝูงใหญ่ๆ ไซด์ 23456 โล ส่วนใหญ่ไม่แรกและไม้ 2 จะโดนและได้ตัวเลยครับ (ผมชอบปลาอยู่เป็นฝูงมากกว่าทุกแบบเลย) ปลาอยู่เป็นฝูงมักจะขึ้นช่วงโพล้เพล้ ตะวันจะตกดินครับ ตลาดนัดแห่งชะโด
แม่ ครอก มีนาคม เมษายน มักเป็นช่วงแม่ครอกให้กำเนิดบุตรธิดามหาศาล พาเหรดเลี้ยงลูกสวนสนามกันมันส์สะใจ ช่วงนี้แม่ครอกตัวใหญ่ครับ ไซด์ 6 7 8 9 10 แล้วแต่จะเจอ ตีง่าย ตกง่ายที่สุดในบรรดาปลาชะโดทุกรูปแบบ เหยื่อสีแสบๆ ขนาดกลาง ดำไม่ลึก Action แล้วแต่จะจินตนาการ สังเกตครอกพาลูกวิ่งไปทางไหน อย่าเอาเรือตามท้ายครอก จำคำนี้ไว้ให้ดีครับ (อย่าเอาเรือพายตามครอกที่วิ่งอยู่ข้างหน้าท่าน) เพราะถ้าท่านตีออกไปแล้วลากเหยือสวนกับที่แม่ครอกพาลูกวิ่งไป ต่อให้ Chock Lead เบอร์ 1.0 ก็ขาดครับ แม่ครอกจะงับที่หัวเหยื่อ ไม่ได้งับที่ท้องหรือที่หาง เจอ 10 ครั้งก็ขาด 10 ครั้งครับ ต้องเอาเรือออกด้านข้างของฝูง แล้วตีใส่บริเวณหน้าฝูงสัก 1 ฟุต จะมีโชคหรือไม่มี ก็อยู่ตรงนี้ครับ ผมถือว่าปลาแม่ครอกเป็นปลาที่ตกง่ายที่สุด เอาตัวง่ายที่สุด ถ้ามีอย่างอื่นเล่นๆอย่างอื่นดีกว่าครับ Spilite นักตกปลา มันวัดกันตรงนี้ครับ



ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.numaer.com/How%20to%20fishing5.htm
ครั้งต่อไปจำนำภาพมาฝาก  นะครับ

วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เรื่อง รอกที่ได้รับความนิยม

รอกที่ได้รับความนิยมอย่างนึงในวงการตกปลาก็คือรอกเบท (baitcasting) ครับ ปัจจุบันก็มีรอกเบทหลากหลายรูปแบบหลากหลาย option   แต่อย่างไรก็ตามรอกเบทก็มีลักษณะพื้นฐานซึ่งการทำความเข้าใจหลักการพื้นฐานเหล่านี้ก็จะทำให้เราสามารถเลือกซื้อรอกได้อย่างถูกต้องตามความต้องการของเราและคุ้มค่าเงินที่เสียไปครับ ด้วยอาศัย baitcasting buyer guide จากwww.basspro.com  มาผสมผสานความรู้ประสบการณ์ที่พอมีอยู่ของผมเองมาแบ่งปันให้เพื่อนๆได้พอเป็นแนวทางกันครับ

***วัสดุตัวเรือนรอก (Reel Body)***
จะเป็นรอกทรงกลมหรือหยดน้ำนี้ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนนะครับ ส่วนสำคัญที่จะพูดถึงในข้อนี้คือเรื่องวัสดุที่ใช้ทำโครงรอกซึ่งได้แก่ กราไฟท์กับอลูมินั่ม
   - กราไฟท์จะมีน้ำหนักเบาและทนทานการกัดกร่อนของน้ำทะเลได้ดีกว่าอลูมินั่ม
   - อลูมินั่มจะได้เปรียบเรื่องความแข็งแรงทนทาน และตามทฤษฎีแล้วความคงตัวของอลูมินั่มจะส่งผ่านแรงเหวี่ยงของเหยื่อไปที่สปูลได้มากกว่า ทำให้สปูลเริ่มต้นหมุนได้เร็วกว่ารอกกราไฟท์ ส่วนตัวเรือนประกอบก็จะด้อยกว่าอลูมินั่มเฟรมเดี่ยวไปเล็กน้อยครับ
   สรุปว่ากราไฟท์ก็เหมาะกับเกมเบาๆ ถ้าเกมหนักๆก็แนะนำอลูมินั่มมากกว่าครับ 

(จะว่าไปแล้วนักตกปลาเมืองไทยก็ถือรอกเฟรมอลูมินั่มกันหมดแล้วหล่ะ)










***ตลับลูกปืน(Ball bearing)***
   ระบบรองรับจุดหมุนต่างๆของรอกเบทมีอยู่ 2 ระบบครับ ก็คือระบบลูกปืน(บอลแบริ่ง, ball bearing) กับระบบแหวนรอง(บุช, bush) ซึ่งก็แล้วแต่ดีไซน์ ตลับลูกปืนที่แกนสปูลทำให้สปูลหมุนได้นานกว่า (จะตีไกลกว่าหรือเปล่านี่มันขึ้นอยู่กับอีกหลายปัจจัยครับ) สำหรับตลับลูกปืนในตำแหน่งอื่นๆก็จะช่วยเรื่องประสิทธิภาพซึ่งก็หมายถึงออกแรงน้อยกว่าได้กำลังจากรอกมากกว่า ทำให้เบาแรงเวลาสร้างแอ็คชั่นเหยื่อหรือเวลาอัดปลา การเลือกรอกเบทก็ควรที่มีซัก 2 บอลแบริ่งเป็นอย่างน้อย จะมากกว่านี้ก็ตามกำลังทุนทรัพย์ครับ
***ระบบกันกลับ (Anti-reverse)***
   ลูกปืนกันกลับ (ARB, Anti-Reverse Ballbearing หรือ ARR, Anti-Reverse Roller) นี่ถือเป็นระบบของรอกยุคใหม่เลยนะครับ ทุกยี่ห้อมี anti-reverse หมดแล้ว แทบจะให้ใช้ลูกปืนกันกลับจากโรงงานเดียวกันเลยโดยจะใส่ไว้ที่แกนมือหมุน เวลาเลือกซื้อก็เช็คดูซักหน่อยว่ามือหมุนมีระยะถอยหลังบ้างหรือเปล่า ปรับเบรคให้แน่นก่อนนะครับไม่งั้นจะเข้าใจผิดว่ามือหมุนมีระยะถอย'





วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เก็บมาฝาก .... เหยื่อขนมปังป่น


เหยื่อขนมปังป่น สูตรตกแข่งขัน


ความเป็นมา
ใช้ตกแข่งขันปลาสวาย ตามบ่อ เป็นสูตรลับๆสูตรหนึ่งครับ

ปลาที่ตกได้
สวาย  หรือนำไปผสมเพื่อตกปลาเกล็ดก็ได้ครับ

ส่วนผสม
-  น้ำกะทิ
-  ขนมปังปั่น

วิธีทำ
-นำน้ำกะทิมาตั้งไฟอ่อนๆ แล้วปล่อยใว้อย่างนั้น ห้าม! คนเด็ดขาด ทิ้งใว้จนแห้ง แล้วจะมีน้ำมันลอยขึ้นมาแทน เรียกว่าน้ำมันมะพร้าว (ที่ผู้เฒ่าผู้แก่นำไปจุดใต้จุดเทียนตามวัด)  ปล่อยทิ้งใว้อีกซักพักจะเห็นว่าก้นหม้อมีขี้ดำๆ ตอนที่ได้น้ำมันมะพร้าวนี้จะมีกลิ่นหอมมากกก  หลังจากได้ขี้เหลืองออกดำนี้ให้รีบยกลงมาพักใว้ เรียกขี้ตัวนี้ว่า ขี้ออด ให้นำเอาไปผสมกับขนมปังปั่น แค่กำมือเดียวต่อหนมปังปั่นห้ากิโล หอมจนปลาสวายอดใจไม่ใหวแน่นอน ใช้เป็นเหยื่อล่อ ติดรางวัลมาหลายครั้งแล้ว เชื่อเป่า
-ส่วนน้ำมันมะพร้าว ให้นำไปผสมทำหัวเชื้อปรุงกลิ่นขึ้นมาใหม่ ตัวนี้ก็เป็นสูตรลับที่นักแข่งหลายท่านใช้และไม่ยอมบอกกัน ผมเอามาลง จะได้รู้ ได้นำไปใช้กันบ้าง รับรอง กลิ่นหอมชื่นนนใจ  ขอบอก จิงๆนาคับ ไม่ได้โม้....

วิธีใช้
ตามเทคนิคปลายสายที่ใช้ เป็นเหยื่อล่อ

ข้อแนะนำ  :  ปลาแต่ละที่จะมีความเคยชินที่แตกต่างกัน  หากปลามันไม่กินลองวิธีใหม่ดูนะครับ

สนใจลองเข้าดูได้จาก  http://www.siamfishing.com/content/view.php?id=59&cat=bait

วันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2555

เก็บมาฝากเทคนิคพื้นฐานการตกปลาล่าเหยื่อ


เทคนิคการตกปลาล่าเหยื่อ

ภาพที่ 1
     ต้องออกตัวก่อนน่ะครับว่าไม่ใช้ผู้ที่มีความรู้มากมายหรือว่าเป็นเซียนมาจากที่ไหนถึงได้มาแนะนำวิธีการตกปลาช่อน แต่เป็นเพียงความต้องการที่จะแชร์ประสบการณ์และเทคนิคที่ได้เคยสัมผัสมาเท่านั้น การตกปลานั้นไม่มีอะไรแน่นอนตายตัวเสมอไป การได้หรือไม่ได้ปลานั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างมาก ฉะนั้นแล้วขอให้บทความนี้เป็นกรณีศึกษาอีกตัวอย่างหนึ่งก็แล้วกันน่ะครับ
    ปลาช่อน ปลาน้ำจืดชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Channa striata อยู่ในวงศ์ปลาช่อน (Channidae) มีส่วนหัวค่อนข้างโต รูปร่างทรงกระบอกยาว ครีบหางเรียวปลายมน ปากกว้าง ภายในปากมีฟันเขี้ยวบนเพดาน ลำตัวสีคล้ำอมมะกอกหรือน้ำตาลอ่อน มีลายเส้นทแยงสีคล้ำตลอดทั้งลำตัว 6 - 7 เส้น ด้านท้องสีจางตัดกับด้านบน ครีบสีคล้ำมีขอบสีเหลืองอ่อน ครีบท้องจาง มีขนาดลำตัวประมาณ 30 - 40 ซ.ม. ใหญ่สุดได้ถึง 1 เมตร โดยปลาช่อนชนิดนี้มีความพิเศษไปกว่าปลาช่อนชนิดอื่น ๆ คือ สามารถแถกไถตัวคืบคลานไปบนบกเพื่อหาที่อยู่ใหม่ได้ รวมทั้งสามารถหลบอยู่ใต้ดินในฤดูฝนแล้งเพื่อรอฝนมาได้เป็นแรมเดือน โดยสะสมพลังงานและไขมันไว้ ที่เรียกว่า "ปลาช่อนจำศีล" พบอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำทั่วประเทศไทย พบไปจนถึงเอเชียใต้ พม่าและอินโดนีเซีย นิยมนำมาบริโภค ปรุงเป็นอาหารได้หลากหลายทั้งสดและตากแห้ง เป็นปลาน้ำจืดเศรษฐกิจที่สำคัญจนอาจเรียกได้ว่าเป็นปลาน้ำจืดเศรษฐกิจอันดับหนึ่ง เลี้ยงได้ทั้งในบ่อและกระชังตามริมแม่น้ำ นอกจากนี้ยังนิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงามด้วย โดยเฉพาะตัวที่สีกลายเป็นสีเผือกหรือปลาที่พิการตัวสั้นกว่าปกติ





ภาพที่ 2
  ลักษณะโดยทั่วไปของปลาช่อน
  ปลาช่อนเป็นปลาล่าเหยื่อที่มีนิสัยดุร้ายหวงถิ่นโดยมันจะอาศัยอยู่เพียงตัวเดียวภายในบริเวณที่เป็นอณาเขตตามตอไม้หรือพงหญ้าใต้น้ำ ยกเว้นในช่วงเลี้ยงลูกที่ปลาช่อนจะจับคู่ช่วยกันเลี้ยงลูกหรือที่เรียกว่า ลูกคอก ปลาช่อนโดยส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในเขตน้ำตื้น ลึกซักประมาณ 0.5-2 เมตร สังเกตจากประสบการณ์ส่วนตัวน่ะครับ เพราะปลาช่อนเป็นปลาที่ต้องมีการขึ้นมาจิบน้ำเอาฟองอากาศฉะนั้นมันจึงจะไม่อาศัยอยู่ในน้ำที่ลึก อาจจะมีช่วงที่ลงไปหากินหรือหลบภัยที่ปลาช่อนจะลงไปอยู่ติดกับพื้นดินใต้น้ำหรือมุดโคลน บริเวณที่ปลาช่อนชอบอาศัยหากินคือบริเวณริมตลิ่ง โดยจะอำพรางตัวอยู่คอยไล่งับลูกปลาหรือพวกฝูงปลาซิวตัวเล็ก ๆ หรือพวกกบเขียด ต่าง ๆ จุดสังเกตบริเวณที่ปลาช่อนทำการล่าเหยื่อคือ ให้คอยสังเกตดูฝูงประซิวที่วิ่งแตกกระจาย รวมทั้งกระโดดพ้นน้ำเป็นย่อม ๆ นั่นคือพวกมันถูกปลาช่อนไล่ล่านั่นเอง
 
อีกอย่างอันนี้เล่าจากประสบการณ์ เนื่องด้วยที่บ้านเกิดทำอาชีพทำนาและก็มีปลาช่อนเยอะ ตอนเด็ก ๆ ผมจะสังเกตเห็นรวมทั้งผู้เฒ่าผู้แก่ก็อบอกเล่ามาเช่นกัน ก่อนการทำนาในหน้าฝน น้ำท่วมขังทุ่งนา ปลาช่อนจะออกจากบึงและห้วยมาผสมพันและเลี้ยงลูกคอกในนา เมื่อถึงเวลาที่ต้นข้าวเติบโต จะมีน้ำที่ขังอยู่ในนา ปลาช่อนตัวที่มาเกิดในนาก็จะหากินและเติบโต อยู่ในนานั่นเอง จุดสังเกตว่ามีปลาช่อนอยู่ในนาหรือไม่ ให้ไปเดินตามท้องนาในเวลาเย็น ๆ จะได้ยินเสียงปลาช่อนล่าเหยื่อ ไล่กัดลูกปลาและแมลงตามต้นข้าว เสียงดัง จ๊บ ๆ เลย ถ้ามีปลาช่อนเยอะเสียงจะดังระงมเลยที่เดียว ผ็เฒ่าผู้แก่จะใช้วิธี เอาเบ็ดโด่ ไม่รู้ว่าที่อื่นเรียกอย่างไรน่ะครับ แต่ที่บ้านเกิดผมเรียกอย่างนี้ ได้ยินมาว่าบางที่เรียก เบ็ดยก ลักษณะจะเป็นคันไม้ไผ่ยาว ๆ ประมาณ 5 เมตรขึ้น ใช้เบ็ดที่ทำขึ้นเองจากลวด ขนาดประมาณเบ็ดจิ๊ก ตัวใหญ่ ๆ เกี่ยวด้วยเขียด ตัวขนาดหัวแม่มือ หรือบางที่ก็ไช้ดอกกระเจี๊ยบ ดอกกระเจี๊ยบจริง ๆ น่ะครับ เกี่ยวที่ตัวเบ็ดแล้วก็ทำการหย่อนเข้าไปในนายกขึ้นลงเป็นจังหวะช้า ๆ เมื่อปลางับก็ยกขึ้นตัวลอยมาปลดเลย บางทีในนานั้นมีกบ กบก็กินเหยื่อพวกนี้ด้วยครับ บางที่เคยเห็นจะใช้ปลาหมอ เป็นเหยื่อ ปลาช่อนที่อาศัยอยู่ในนาจะตัวใหญ่และอ้วนมากเนื้อเยอะเพราะเหยื่อตามธรรมชาตินั้นเยอะมากทั้งลูกปลา แมลง เขียด ต่าง ๆ เยอะ ดังนั้นปลาที่ได้ในนาจะมีเนื้อที่อร่อยและอ้วนถ้วนสมบูรณ์ครับ




 ภาพที่ 3
  เล่าต่อพวกปลาช่อนที่อาศัยอยู่ในนาเมื่อเข้าฤดูปลายฝนต้นหนาวหรือประมาณ เดือนกันยายนถึง ตุลาคม ช่วงนี้น้ำในนาจะเริ่มลด และข้าวก็กำลังออกรวง ปลาช่อนพวกนี้ก็จะทำการอพยพบออกจากนาโดยจะพากันหาบริเวณที่น้ำไหลหรือคันนาขาด ทั้งกระโดดและว่ายหาทางเพื่อที่ลงสู่แม่น้ำหรือบึงธรรมชาติต่อไป ช่วงนี้แหละที่ผู้เฒ่าผู้แก่จะใช้อุปกรณ์อีกชนิดหนึ่งในการจับปลาช่อนอพยพ ที่เรียกว่า อีโต่ง มีลักษณะคล้ายอวน





ภาพที่ 4
โดยจะใช้ตาขายจากแหเก่า ๆ มาผูกติดกับไม้สองท่อน ลักษณะจะเป็นคล้าย ๆ กับเปลหรืออะไรซักอย่าง โดยจะนำไปปักไว้กับบริเวณที่เป็นร่องน้ำ และจะเอาโคลนมาราดเป็นลานน้อย ๆเพื่อล่อให้ปลาช่อนมากระโดด การเอาโคลนมาราดนี้เป็นภูมิปัญญาของคนสมัยก่อนที่เค้ารู้กันน่ะครับ เหมือนหลอกปลาว่าตรงนี้เป็นบริเวณที่น่าจะกระโดดน่ะ 
เมื่อปลากระโดดก็จะไปติดห้อยอยู่กับ อีโต่งที่ปักไว้ โดยต้องใส่ตอนกลางคืนน่ะครับ เพราะปลามันจะทำกาอพยพ ตอนกลางคืน บางวันได้เยอะมาก ๆ น่ะครับ อันละ 10 ตัวก็ยังได้เลย
ฟังผมเล่ามาแล้วอย่าคิดว่าปลาช่อนจะหายหมดน่ะครับ เพราะหากินกันยาวเลย แต่ที่จริงแล้วชาวบ้านเค้าจะหากันแค่พอกินในแต่ละวันเท่านั้น เมื่อก่อนน่ะ แต่เดี๋ยวนี้คงไม่เหลือให้หากันแล้วเพราะหลายอย่างเปลี่ยนไปมาก จากหาอยู่หากินกลายเป็นการหาเพื่อจำหน่ายไปแล้วมีเท่าไหร่หมดไม่เหลือ

เล่าไปเยอะคราวนี้ก็มาถึงเรื่องของอุปกรณ์ตกปลาที่จะใช้ตกปลาช่อนกันน่ะครับ

ชุดเบ็ดตกปลาช่อน
 
อุปกรณ์ต้องบอกก่อนว่าไม่ต้องไปคิดอะไรมากมียังไงก็ใช้อย่างนั้นได้ครับแต่อย่าใช้ชุดที่ใหญ่หรือว่าเล็กเกินไปก็แล้วกันเพราะอาจทำให้เกิดความเกะกะและไม่สมดุลกันได้ครับ
 
ชุดรอก
 
รอกที่ใช้ตกปลาช่อนนั้นสามารถใช้ได้ทั้งรอกเบทและสปินนิ่ง ใช้ตัวไม่ต้องใหญ่มาก ถ้าเป็นสปินนิ่งก็ใช้ขนาดประมาณ BG13-15 ก็ได้ครับกำลังดี เหตุผลที่ไม่ให้ใช้รอกตัวใหญ่ก็เพราะในวันหนึ่ง ๆ ที่เราออกไปตีปลาช่อนต้องขว้างเบ็ดหลายครั้งนับไม่ถ้วน ถ้าใช้รอกตัวใหญ่เกินไปมันจะหนักและส่งผลต่อการข้างเหยื่อทำให้เกิดการปวดเมื่อยแขนเป็นอย่างมากกลับมาบ้านถึงกับนอนปวดครวนครางเลยก็มี
ชุดคัน
 
สำหรับชุดคันก็เลือกให้เข้ากับชุดของรอกที่เราเตรียมไว้ไม่ควรใช้คันที่แข็งเพราะจะทำให้แอคชั่นของเหยื่อออกมาไม่ดีและก็ไม่ควรใช้คันที่อ่อนมากจนเกินไปเช่นกัน ให้ใช้คันที่มีแอคชั่นปานกลาง ความยาวตั้งแต่ 5-7 ฟุต เพื่อไม่ให้เกิดความเกะกะหรือว่าหนักจนเกินไป
ชุดสายหรือเอ็น
 
ชุดสายให้ใช้ขนาดของสายประมาณ 12 ปอนด์เป็นอย่างน้อย อาจจะประกอบสายหน้าด้วยก็ได้หรือบางครั้งก็ไม่ใช้แต่แนะนำว่าใช้สายหน้าจะเป็นการป้องกันปลากัดสายขาดได้ดี
เหยื่อตกปลาช่อน
 
                เหยื่อที่ใช้สำหรับตกปลาช่อนนั้นสามารถใช้ได้ทั้งเหยื่อที่เป็นเหยื่อจากธรรมชาติหรือเหยื่อจริง และเหยื่อที่ทำขึ้นเองหรือที่เราเรียกกันว่าเหยื่อปลอมนั่นเองครับ
 
เหยื่อที่จะกล่าวถึงอันดับแรกก็คือเหยื่อจากธรรมชาติหรือเหยื่อจริง เหยื่อจริงที่ใช้ตกปลาช่อนนั้นก็ได้แก่ เขียด ลูกปู ลูกปลา ไส้เดือน หรือแม้แต่ ตับไก่ ปลาหมึกแห้ง ลูกอ้อด แมงกระชอน ก็ยังใช้ตกปลาช่อนได้

การใช้ไส้เดือน และปลาหมึกแห้งในการตกปลาช่อนนั้น ที่ผมว่ามันได้ปลาช่อนก็เพราะ เมือตอนเด็ก ๆ เด็กบ้านนอกเราจะชอบไปปักเบ็ด โดยจะใช้ไส้เดือน หรือปลาหมึกแห้งหรือไม่ก็ลูกเขียด การเกี่ยวไส้เดือนนั้น ให้เกี่ยวเป็นก้อนกลม ๆ ปักไว้ปริ่ม ๆ กับผิวน้ำส่วนเหยื่อปลาหมึกแห้งให้หั่นขนาดพอดี ขนาดประมาณ 3 คูณ 4 เซนติเมตร ปักให้จมน้ำประมาณ 3 นิ้ว กำลังพอดี ส่วนการใช้ลูกเขียดในการปักเบ็ด นั้นจะใช้ตัวเขียดประมาณหัวแม่มือ เกี่ยวบริเวณปากให้หมิ่น มาก ๆ (อาจโหดเล็กน้อย) เพื่อป้องกันเขียดตาย จากนั้นทำการปักให้ขาเขียดจุ่มน้ำ ประมาณเอวก็พอดี ข้อสำคัญในการใช้เขียดปักเบ็ดตกปลาช่อนนั้นก็คือ ห้ามใช้ลูกกบ เพราะปลาช่อนจะไม่กินลูกกบอันนี้ยืนยันเลยครับว่าไม่กินจริง ๆ พิสูจน์มาแล้ว ไม่ทราบว่าด้วยสาเหตุใดถึงไม่กิน จะมีแต่งูเท่านั้นที่มากิน อีกอย่างห้ามใช้เขียดจนา(รู้จักกันหรือเปล่า) หรือเขียดที่อยู่ในน้ำตัวสีเขียว ๆ ไม่รู้ชื่อว่าอะไร  เพราะเขียดพวกนี้ฉลาดมันรู้จักปลาช่อนดี ถ้ามันเห็นปลาช่อนมันจะไม่ดิ้นปลาจะไม่เห็นมันแล้วก็ไม่กิน แต่ถ้าเป็นเขียดอย่างอื่น เมื่อเจอปลาช่อน มันจะดิ้นตูมตามเพราะกลัว จึงเป็นการดึงดูดความสนใจของปลาช่อนทำให้ถูกกิน ที่กล่าวมานี้เป็นการตกด้วยเบ็ดปักหรือเบ็ดปักตามท้องนา เหยื่ออีกอันที่น่าสนใจก็คือ ลูกปู ใช้ปักเหมือนกันโดยเกี่ยวที่มุมกระดองของลูกปูกันมันตาย และจะปล่อยตัวปูให้เกาะกิ่งไม้หรือก็หญ้าอยู่ตามธรรมชาติ ได้ปลาช่อนเหมือนกัน ก็ใช้ลูกปูตก หรือปักต้องใช้ในหน้าหนาวเท่านั้น และตามคลองบึงที่มีปลาช่อนอยู่ได้ผลดีมาก ที่เล่ามาเป็นการตกปลาแบบสมัยก่อน ถ้าเป็นปัจจุบันก็จะใช้เขียดผูกติดกับตัวเบ็ดขว้างออกไปแล้วลากกลับมาเหมือนกับเหยื่อปลอม หรือใช้ตับไก่ ขว้างรอให้ปลามากิน หรือไม่ก็จะเกี่ยวลูกปลาสร้อยผูกกับทุ่นลอย ปล่อยรอให้ปลาช่อนมากัดเอง



ภาพที่ 5
เหยื่อแบบต่อมาคือเหยื่อปลอม 
                เหยื่อปลอมเป็นเหยื่อที่คนเราผลิตขึ้นมาโดยการเลียนแบบเหยื่อจากธรรมชาติทั้งปลาหรือ กบ เขียด ต่าง ๆ
 
เหยื่อปลอมที่ใช้สำหรับตกปลาช่อนชนิดแรกที่จะพูดถึงก็คือ
 
เหยื่อประเภทผิวน้ำ
 
เหยื่อผิวก็จะได้แก่เหยื่อในตระกูลกบทั้งหลาย รวมถึงพวกปอบเปอร์ และเหยื่อใบพัดทั้งหลายโดยจะใช้เหยื่อที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนักในการตกปลาช่อน เทคนิคง่าย ๆ คือตีเข้าหมายตามจุดที่คิดว่ามีตัวแล้วลากกลับมา เร็วหรือช้าต้องทดลองเองเพราะบางวันลากเร็วปลากินบางวันต้องลกช้าถึงกินไม่ตายตัวครับ ส่วนจะตีเข้าในแต่ละหมายซักกี่ไม้นั้นก็แล้วแต่ความถนัดครับ บางจุดต้องตีถึง สิบกว่าไม้ถึงจะกินก็มีบางจุดไม้เดียวก็เห็นผลครับ เทคนิคอีกอย่างที่อยากแนะนำคือหากเราอยู่บนเรือถ้าตีชิดตลิ่งมาก ๆ แนะนำให้ตีขึ้นตลิ่งเลยแล้วกระตุกเหยื่อลงน้ำให้เหมือนกับกบกระโดดลงน้ำครับปลาช่อนจะงับที่ทันทีที่เหยื่อลงน้ำจากประสบการของผมเอง


ภาพที่ 6
เหยื่อดำตื้นและดำลึก
เหยื่อดำตื้นและดำลึก เป็นเหยื่อปลอมที่ทำขึ้นมาเลียนแบบลูกปลาตัวเล็ก ๆ ทั้งเหยื่อดำตื้นละดำลึกนั้นจะมีแอคชั่นที่คล้ายคลึงกันเพียงแต่ทำงานในระดับความลึกที่แตกต่างกันเท่านั้น เหยื่อดำลึกดำตื้นจะใช้ได้ผลดี ในหมายที่เป็นร่องน้ำโล่งไม่มีสาหร่ายหรือสวะใต้น้ำ เหยื่อประเภทนี้มีหลายสี หลายขนาด แต่ถ้าใช้ตกปลาช่อนแนะนำให้ใช้ขนาดที่ไม่ใหญ่มากจะได้ผลดี
 
เหยื่อประเภทนี้ก็ได้แก่ เหยื่อพวกปลัก สปินเนอร์เบท สปูน  หรือ หนอน และกระดี่เหล็ก โดยเฉพาะกระดี่เหล็ก ถ้าเป็นหมายอย่างที่ว่ามาก่อนหน้านี้นำว่าได้ผลดีมากครับ แหล่งน้ำที่โล่งกว้างไม่มีพวกตอไม้หรือสาหร่ายใต้น้ำต้องกระดี่เหล็กเท่านั้น หรือจะเป็นปลายาง หนอนยาง เบ็ดจิ๊กก็ได้แต่เหยื่อพวกนี้ใช้งานได้หลากหลายกว่ากระดี่เหล็ก เพราะสามารถนำไปตกในคลองแคบ ๆ ก็ได้ ได้ผลดีเช่นกันครับ


ภาพที่ 7
เทคนิคพื้นฐาน 
อย่างที่บอกไปแล้วว่าการตกปลาช่อนนั้นไม่มีอะไรตายตัวแต่หลัก ๆ แล้วก็คือการตีเหยื่อเข้าที่หมายแล้วลากรอให้ปลากิน การตีเหยื่อเข้าหมายให้สังเกตจุดที่คิดว่ามีตัวอปลาช่อนอยู่เช่น ตามริ่มตลิ่งที่มีลูกปลาโดดหรือแตกกระจาย ข้างตอไม้  หรือพงหญ้า ใช้เหยื่อตีให้เลยหมายไปนิดหน่อยแล้วลากผ่านหากปลากัดอย่ารีบวัดในทันทีควรปล่อยเวลาซักนิดแล้วค่อยวัดแล้วลากกลับให้เร็วเพื่อป้องกันปลาลากสายเข้าตอไม้ใต้น้ำ
 
เหยื่อที่เรานำไปตกควรมีหลากหลายสีน่ะคับ เพราะบางวันสีนั้นใช้ได้ผลมาอีกวันอีกสีหนึ่งถึงใช้ได้ผล เหยื่อควรเตรียมให้พร้อม คีมปลดปลาอย่าลืมถ้าใช้มือระวังเงี่ยงเบ็ดด้วยเจ็บมากขอบอก สายหรือเอ็น ควรมีสำรอง หรือแม้แต่คันเผื่อมันหัก อุปกรณ์อื่น ๆ เช่น แว่นกันแดด หมวก สวิงตักปลา ถุงใส่ปลา กรณีเอากลับ ข้าวกล่อง น้ำ เผื่อหิวครับ
เทคนิคการตกปลาช่อนแบบของผมนี้หวังว่าจะให้ความรู้สำหรับนักตกปลามือใหม่ที่เริ่มจับคันบ้าง ไม่มากก็น้อย หวังเป็นอย่างยิ่งน่ะครับ แล้วเจอกันในบทความต่อไปครับ


 




ภาพที่ 8


เก็บมาฝากจาก 
phitsanulokfishing.com POST ใน SIAM fishing
 
 phitsanulokfishing.com

วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2555

การตกปลาด้วยกบปลอม


การตกปลาด้วยกบปลอม.... (เชื่อหรือไม่  เหยื่่อในภาพนี้ผมทำเอง...ใช้เอง)









การตกปลาด้วยกบปลอม

                   วันนี้มาว่ากันเรื่องการตกปลาด้วยกบปลอมกันครับ  กบปลอมเป็นเหยื่อชนิดหนึ่งที่ใช้ตกปลาล่าเหยื่อที่ได้ผลดีไม่แพ้เหยื่อประเภทอื่น ๆ กบปลอมมีหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นกบผิวน้ำ หรือกบที่ใช้ตกใต้น้ำครับ 
                  กบผิวน้ำ
        คือกบที่ลอยมาบนน้ำปลาจะขึ้นมาฮุบเหยื่อในขณะที่เหยื่อลอยมาบนผิวน้ำ ซึ่งเป็นเหยื่ออีกชนิดหนึ่ีงที่นักตกปลาหลายท่านหลงใหล ในการซาร์ตเหยื่อของปลาที่เร้าใจ และได้อารมณ์ไปอีกแบบ กบผิวน้ำมีหลายประเภทสำหรับให้นักตกปลาได้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นกบกระโดด กบส่ายหน้า กบมีเสียง กบยาง ซึ่งกบทุกประเภทก็ใช้ได้ผลดีไม่แพ้กัน ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ และการสร้างแอกชั่นว่าเหมาะสมขนาดไหน
                 กบใต้น้ำหรือเหยื่อจม 
         คือเหยื่อที่จมอยู่ใต้น้ำ โดยตัวเหยื่อจะจมอยู่ใต้น้ำและลากมากับพื้นดินใต้น้ำ เป็นเหยื่ออีกชนิดหนึ่งที่นักตกปลาเหลายท่านชอบใช้เหมือนกับ โดยวิธีการตกจะตกแบบเทซัส ซึ่งการตกปลาแบบนี้ก็ได้ความเร้าใจ สนุกสนานไม่แพ้วิธีอื่นเช่นกับ
                 สำหรับผู้เขียนเองขอนำเสนอกบกระโดดกบส่ายหน้าและกบมีเสียง เพราะเป็นเหยื่อที่ผู้เขียนชื่นชอบและใช้ได้ผลดีเป็นอย่างยิ่ง ไมว่าจะเป็นปลาช่อน กระสูบ หรือชะโด โดยเฉพาะปลาช่อนกับหมายที่ใช้เหยื่อจมไม่ได้  ขอให้มีตัวตีมันเข้าไปเถอะครับรับรองไม่มีแห้วแน่นนอน คราวนี้มาพูดกันถึงเรื่องกบกระโดดกันเป็นอันดับแรก

  

กบกระโดด
              คือกบปลอมที่มีแอกชั่นกระโดดมาบนผิวน้ำ บางท่านมักจะเรียกว่ากบสับหน้าเพื่อลอกล่อให้ปลาคิดว่ามีกบหรือเขียดกระโดดมาบนผิวน้ำ ซึ่งจะทำให้ปลาพุ่งเข้าซาร์ตเหยื่อด้วยความรวดเร็ว เทคนิคในการตกปลาด้วยกบกระโดด มีหลากหลายวิธีที่ใช้ได้ผล ไม่ว่าจะเป็นการลากให้กระโดดมาอย่างช้าๆ การลากให้กระโดดระดับปานกลาง การลากให้กระโดดมาอย่างรวดเร็ว การลากหยุดลากหยุด การกระตุกเบาๆ หรือจะเป็นการเจิร์ค ซึ่งเทคนิคดังกล่าวก็ใช้ได้ผลทั้งสิ้น ลอกเอาไปใช้ดูถ้าลากช้าไม่กิน ก็เพิ่มความเร็วขึ้น ถ้าไม่กินก็ลากหยุดหลากหยุด ถ้ายังไม่กินอีกก็กระตุกเบาๆ แล้วถ้ายังไม่กินอีกก็เจิร์ค ถ้ยังไม่กินอีกก็ใช้วิธีการทั้งหมดสลับไปมา สังเกตว่ามันกินแบบไหนก็ใช้วิธีการนั้นให้เหมาะสมกับเวลา สถานที่ แล้วก็ฤดูกาลก็แล้วกันนะครับรับรองถ้ามีตัวได้กินแป๊ะซะปลาช่อนอย่างแน่นอนครับ





กบส่ายหน้า
              กบส่ายหน้า คือ กบที่มีแอกชั่นส่ายหน้าแหวกว่ามาบนผิวน้ำซึ่งก็สามารถลอกล่อให้ปลาล่าเหยื่อเข้าซาร์ตเหยื่อด้วยความรวดเร็วไม่แพ้กบกระโดดเช่นกัน ความแตกต่างของกบส่ายหน้ากบกบกระโดดก็คือ ชื่อมันซึ่งก็บอกอยู่แล้วว่ากบกระโดดมันก็ต้องกระโดดมา ส่วนกบส่ายหน้ามันก็ต้องส่ายหน้ามาเช่นกันเทคนิคการตกด้วยกบส่ายหน้าก็เหมือนกับการตกด้วยกบกระโดดนั่นแหละครับแต่ขึ้นอยู่ที่ว่ามันจะกินแบบไหนดีกว่า บางช่วงจะกินแบบกระโดด บางช่วงอาจจะกินแบบส่ายหน้าดีกว่า ลองใช้ดูถ้ามันไม่กินแบบกระโดดมันก็ต้องกินแบบส่ายหน้านั่นแหละครับ




 กบมีเสียง

                   กบมีเสียง คือกบผิวน้ำที่มีเสียงอยู่ในตัวเหยื่อ โดยในตัวเหยื่อจะมีลูกปืนหรือลูกเหล็กอยู่ เวลาลองเขย่าดูก็จะมีเสียงลูกเหล็กกระทบกับภายในตัวเหยื่อดังแคร็กๆๆๆ ในความรู้สึกของผู้เขียน ซึ่งก็สามารถหลอกล่อให้ปลาเข้าซาร์ตเหยื่อได้ดีไม่แพ้กบกระโดดและกบส่ายหน้าเช่นกัน เทคนิคการตีกบมีเสียงก็คือ การลากมาช้าๆ ถ้าไม่ซาร์ตก็ลากเร็วขึ้น ถ้ายังไม่กินอีกก็ใช้วิธีการกระตุกๆๆโดยไม่ต้องหยุดลากคือลากไปด้วายกระตุกไปด้วย ลอกกระตุกหลายๆจังหวะ คืออาจจะกระตุกถี่บาง กระตุกเป็นจังหวะบาง หรืออาจจะกระตุกหยุดๆ ก็ได้เช่นกัน ลอกดูหลายๆวิธีครับ

เทคนิคเพิ่มเติมสำหรับการใช้เหยื่อกบกระโดด กบส่ายหน้า และกบมีเสียง

                  การตกปลาให้ได้ตัวไม่มีอะไรที่แน่นอนตายตัวครับ สำหรับการใช้เหยื่อกบกระโดด กบส่ายหน้า และกบมีเสียงเอาเป็นว่าเวลาออกทริฟแต่ละรอบเอาไปมันทั้งหมดสามประเภทนั่นแหละครับท้ั้ง กบกระโดด กบส่ายหน้า และกบมีเสียง ตีมันเข้าไปครับลองไล่เหยื่อดู บางครั้ง บางช่วง บางหมาย มันต้องกินสักอย่างให้ได้และครับ ไม่กินตัวหนึ่งก็ตัวหนึ่ง เพราะสำหรับปลาล่าเหยื่อเท่าที่ผู้เขียนตกด้วยกบผิวน้ำหนีไม่พ้นสามประเภทนี้แน่นอนครับยังไงก็ลองเอาไปใช้ดูนะครับสำหรับการตกด้วยกบผิวน้ำครั้งหน้าจะนำเสนอเทคนิคการทำเหยื่อกบกระโดดและกบส่ายหน้าที่ทำจากไม้และได้ผลเป็นที่หน้าพอใจเป็นอย่างยิ่งครับสำหรับหน้านี้ก็ขอจบเพียงแค่นี้ครับ ขอให้ทุกท่านสนุกกับการตกปลาด้วยเหยื่อผิวน้ำนะครับ ตีหมื่นไม้ก็ไม่ท้อครับตกกับคนรู้ใจตกกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ


วันเสาร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2555

เคล็ดไม่ลับ....กับการตกปลากลางทะเล


                 

          สวัสดีครับวันนี้มีคำแนะนนำสำหรับคนที่ชอบตกปลาทะเลมาฝากกัน

                           วิธีตกปลาทะเลแบบสายลอย วิธีตกปลาทะเลวิธีนี้ จะใช้ตกปลาที่มีฟันคม เป็นส่วนมาก ได้แก่ ปลาสาก ปลาอินทรี และบางที่ก็สามารถใช้ตกปลาประเภท ที่มีฟันไม่คมแต่มีแกล้ม ที่คม ก็ได้ ปลาชนิดนี้ได้แก่ ปลากุเรา ปลากระพง เป็นต้น
ดังนั้น สายหน้าที่ ใช้ จะเป็นลวด เป็น หรือ ลวดสลิง ก็ได้ วิธีการเข้า สาย กับเบ็ด ให้ดูในเวป เทคนิคการทำสายหน้า นะครับ
                              การผูกสายหน้ารีดเดอร์ลวด จะผูกโดยตรงกับ สายเมนจากรอกเลย ต่อไปก็มาดูระยะทุ่น หรือ ระยะความลึกระหว่างเหยื่อ กับ ทุ่น
ระยะความลึก ของทุ่น ไม่มีทฤษฎี ที่แน่นอน โดยปกติ จะนิยม วางระยะ ลึกเท่ากับ 1 ใน 3 ของ ความลึกของน้ำ เช่น น้ำลึก 30 เมตร จะวางทุ่นลึก 10 เมตร เป็นต้น
แต่บางที ก็มีข้อแม้ เช่น ถ้าน้ำไหลแรง เราจะวางทุ่น ให้ลึกเป็น 2 เท่า อย่างในกรณี นี้ เราจะวางทุ่น ลึก เท่ากับ 20 เมตร
                               การตกปลาแบบสายลอย จะใช้เหยื่อเป็นหรือเหยื่อตายก็ได้ แต่โดยปกติ จะนิยมใช้เหยื่อเป็น ทั้งปลาทู และ ปลาหมึก ใช้เป็นเหยื่อได้หมด
วัสดุที่นำมาใช้เป็นทุ่น มีหลากหลายอย่างมาก ขึ้นอยู่กับ สถานการณ์ โดยปกติ จะใช้ โฟม บางครั้ง จะใช้ขวด ข้ำดืม บางครั้ง จะใช้ ลูกโป่ง หรือ ถุงยางอนามัย ก็นำมาใช้เป็นทุ่นได้ อยู่ที่เทคนิค ของแต่ละคนที่จะพลิกแพลงสถานการณ์ ยามนั้นกันอย่างไร

เก็บมาฝากจาก : http://www.eazydo.com/